สถิติ
เปิดเมื่อ | 29/04/2012 |
อัพเดท | 27/07/2021 |
ผู้เข้าชม | 98333 |
แสดงหน้า | 131642 |
ปฎิทิน
|
Sun |
Mon |
Tue |
Wed |
Thu |
Fri |
Sat |
| | | | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
สินค้า
|
สินค้า 
เชียงใหม่-ลำพูน-ลำปาง 2 วัน 1 คืน (0)
เชียงใหม่-ลำพูน-ลำปาง 2 วัน 1 คืน
แพ็คเกจเที่ยว เชียงใหม่-ลำพูน-ลำปาง 2 วัน 1 คืน
วันแรก วัดพระธาตุศรีจอมทอง – พระธาตุเจดีย์ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร – พระเจดีย์เจ็ดยอด วัดเจ็ดยอด – วัดพระธาตุดอยคำ (หลวงพ่อทันใจ) – อนุสาวรย์ครูบาศรีวิชัย – วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร
เช้า รับทุกท่านจากสนามบิน หรือโรงแรมที่พัก

นำท่านเดินทางสู่ วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร เป็นพระธาตุประจำปีชวด (ปีหนู) เป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุส่วนพระเศียรเบื้องขวา มีความพิเศษแตกต่างจากที่อื่นคือ เป็นพระบรมธาตุที่ไม่ได้ฝังใต้ดิน แต่ประดิษฐานอยู่ในกู่ภายในวิหาร นอกจากนั้น ณ วัดแห่งนี้ยังมีต้นโพธิ์ใหญ่เก่าแก่ ที่ปลูกอยู่ภายในวัดมาหลายร้อยปีจะมีไม้ค้ำต้นโพธิ์อยู่มากมาย ทุกวันที่ 15 เมษายน ของทุกปีจะมีพิธีแห่ไมค้ำโพธิ์ โดยเชื่อกันว่าเป็นการสืบชะตาวัด สืบชะตาบ้านเมืองให้อยู่เย็นเป็นสุข
นำท่านสักการะ พระธาตุเจดีย์พระสิงห์ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เป็นพระธาตุประจำปีมะโรง (ปีงูใหญ่) พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร[1] ตั้งอยู่ในบริเวณคูเมืองเชียงใหม่ ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ วัดพระสิงห์ เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ เป็นที่ประดิษฐานพระสิงห์ (พระพุทธสิหิงค์) พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่ และแผ่นดินล้านนา พระพุทธรูปเป็นศิลปะเชียงแสน รู้จักกันในชื่อ 'เชียงแสนสิงห์หนึ่ง' กษัตรยิ์เชียงใหม่ราชวงศ์มังราย โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1888 ขั้นแรกให้ก่อสร้างเจดีย์สูง 23 วา เพื่อบรรจุพระอัฐิของพญาคำฟู พระราชบิดา ต่อมาอีก 2 ปี จึงได้สร้างพระอาราม เสนาสนวิหาร ศาลาการเปรียญ หอไตร และกุฏิสงฆ์ เมื่อเสร็จเรียบร้อย ทรงตั้งชื่อว่า 'วัดลีเชี่ยงพระ' สมัยพญาแสนเมืองมาขี้นครองเวียงเชียงใหม่ โปรดให้อัญเชิญ พระพุทธสิหิงค์มาจากเมืองเชียงราย มาประดิษฐาน
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน
นำท่านสักการะ พระเจดีย์เจ็ดยอด วัดเจ็ดยอด เป็นพระธาตุประจำปีมะเส็ง (ปีงูเล็ก) เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญ (เดิมชื่อวัดโพธารามมหาวิหาร) ตั้งอยู่ที่ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พระเจ้าติโลกราชรัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์มังราย โปรดให้ทรงสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1998 พระเจดีย์สร้างด้วยศิลาแลง ประดับลวดลายปูนปั้น เลียนแบบมหาโพธิ์วิหาร ประเทศอินเดีย ในปี พ.ศ. 2020 วัดโพธารามมหาวิหาร เป็นสถานที่ทำการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 8 ของโลก ปัจจุบัน เจดีย์เจ็ดยอดหักพังไปเกือบหมด
นำท่านเดินทางสู่ วัดพระธาตุดอยคำ เป็นวัดสำคัญในจังหวัดเชียงใหม่ อายุเก่าแก่กว่า 1,300 ปี ตั้งอยู่บริเวณดอยคำ ด้านหลังอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 10 กิโลเมตร วัดพระธาตุดอยคำสร้างในปี พ.ศ. 1230 รัชสมัยพระนางจามเทวี กษัตริย์แห่งหริภุญชัย โดยพระโอรสทั้ง 2 เป็นผู้สร้างในปี พ.ศ. 1230 ประกอบด้วย เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ศาลาการเปรียญกุฏิสงฆ์ และพระพุทธรูปปูนปั้น เดิมชื่อ วัดสุวรรณบรรพต แต่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า 'วัดดอยคำ' ไฮไลท์สำคัญของการมาเยือน ณ วัดแห่งนี้ก็คือ การมาสักการะ หลวงพ่อทันใจ ซึ่งมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ ด้านหลังของวัดท่านจะได้พบเห็นกับวิวของเมืองเชียงใหม่อีกด้วย
นำท่านเดินทางสู่ อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น นักบุญแห่งล้านนาไทย และปูชนียบุคคลที่ชาวเชียงใหม่เคารพศรัทธา มาจนถึงปัจจุบัน โดยเรื่องราวของครูบาศรีวิชัยนั้น มีความผูกพันกับประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่เป็นอย่างมาก เนื่องจาก ท่านเป็นผู้ที่มีบทบาทในการฟื้นฟูวัดวาอาราม โบราณสถานต่างๆ ในแถบภาคเหนือ ที่ทรุดโทรมให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง และที่สำคัญครูบาศรีวิชัย เป็นผู้ริเริ่ม ชักชวน ให้ประชาชนชาวเหนือ ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างถนนจากเชิงดอยขิ้น ไปสู่วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ หรือเรียกได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกเส้นทางขึ้นดอยสุเทพ ที่ทำให้เรา มีโอกาสได้ขึ้นไปชื่นชมความงามของธรรมชาติและกลิ่นอายแห่งอารยธรรมล้านนาในทุกวันนี้ นอกจากนี้หลายคนยังเชื่อกันว่า เพียงได้มาไหว้ครูบาศรีวิชัย ก็เสมือนได้กราบสักการะพระบรมธาตุเลยทีเดียว
นำท่านเดินทางสู่ วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เป็นพระธาตุประจำปีมะแม (ปีแพะ) สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1927 ในสมัยพญากือนา กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งอาณาจักรล้านนา ราชวงศ์มังราย พระองค์ทรงได้อัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุองค์ใหญ่ที่ได้ทรงเก็บไว้สักการบูชาส่วนพระองค์ เมื่อถึงแล้ว สามารถเดินทางขึ้นชมได้ 2 ทาง คือ เดินขึ้นบันไดนาค 306 ขั้น และทางรถราง (หมายเหตุ: ไม่รวมค่ารถรางราคาขึ้น/ลง คนละ 20 บาท สำหรับคนไทย และ 50 บาทสำหรับชาวต่างชาติ) ระยะทางจากเชิงดอย ถึงวัดประมาณสิบกว่ากิโลเมตร ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง วัดแห่งนี้ถือเป็นปูชนียสถานคู่เมืองเชียงใหม่ ถ้าหากใครที่มาเยือนเมืองเชียงใหม่ แล้วไม่ไดขึ้นไปนมัสการถือเสมือนว่า ยังมาไม่ถึงเชียงใหม่
เย็น บริการอาหารค่ำ
ที่พัก โรงแรม 3 ดาว+หรือเทียบเท่า
วันที่สอง พระธาตุวัดเกตการาม – ร้านของฝากวนัสนันท์ – ลำพูน – พระบรมธาตุหริภุญชัย วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร – ลำปาง – พระธาตุลำปางหลวง


รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม รับทุกท่านจากโรงแรมที่พัก นำท่านสักการะ พระธาตุวัดเกตการาม เป็นพระธาตุประจำปีจอ (ปีสุนัข) เนื่องจากตามความเชื่อ พระธาตุประจำปีจอคือ พระเกศแก้วจุฬามณีซึ่งเจดีย์สถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ดังนั้นพระธาตุวัดเกตุการามจึงถูกกำหนดให้เป็นองค์แทนเจดีย์จุฬามณี สำหรับผู้ที่เกิดปีจอ สร้างขึ้นในปี 1971 สมัยพระเจ้าสามฝั่งแกนแห่งราชวงค์เม็งราย เดิมชื่อ วัดสระเกตุลักษณะเป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ มีฐานกว้าง 82 วา ยาว 6 วา รายล้อมด้วยเจดีย์บริวารทั้ง 4 มุม เดิมมีฉัตรแบบเดียวกับวัดพระธาตุดอยสุเทพ แต่ปัจจุบันได้สูญหายไป ถ้าได้ลองสังเกตยอดเจดีย์ พระธาตุวัดเกตการาม จะเห็นว่าเอียงเล็กน้อย เป็นความตั้งใจของผู้สร้าง ตามความเชื่อโบราณที่ว่า การสร้างเจดีย์ที่มียอดชี้ตรงไปยังสวรรค์อันเป็นที่ตั้งของพระธาตุเกศแก้วจุฬามณีนั้น ถือเป็นการไม่สมควร
นำท่านซื้อ ของฝากเชียงใหม่ ร้านวนัสนันท์เป็นร้านของฝากพื้นเมืองของเชียงใหม่ มีของฝากมากมาย อาทิ ไสอั่ว แคปหมู น้ำพริกหนุ่ม ซึ่งเป็นของฝากขึ้นชื่อของจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากนั้น
นำท่านเดินทางสู่จังหวัดลำพูน เพื่อสักการะ พระบรมธาตุหริภิภุญชัย พระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร เป็นพระธาตุประจำปีระกา (ปีไก่) เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 28 ไร่ 3 งาน 26 ตารางวา วัดพระธาตุหริภุญชัย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2478
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน
หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระธาตุลำปางหลวง สักการะพระธาตุลำปางหลวง เป็นพระธาตุประจำปีฉลู (ปีวัว) วัดคู่บ้านคู่เมืองลำปางมาแต่โบราณ และเป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย อีกทั้ง พระธาตุลำปางหลวง ยังเป็น พระธาตุประจำปีเกิดของคนปีฉลูด้วย เริ่มสร้างในปีฉลู และเสร็จในปีฉลู เช่นกัน เดินขึ้นไปตามบันไดนาคจนถึงประตูซุ้มโค้ง หรือประตูโขง ที่ส่วนบน มีลายปูนปั้นเป็นกรองวิมาน มีนาคและหงส์ ตามชั้นต่าง ๆ จนถึงยอดดูสวยงามยิ่ง ข้างบนด้านหน้าจะเป็น พระวิหารหลวง เป็นวิหารเปิดโล่งขนาดใหญ่ เป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย งดงามด้วยสถาปัตยกรรมเก่าแก่มากมาย ไฮไลท์อีกหนึ่งสิ่ง ที่คนมาเยื่อนวัดแห่งนี้คือการได้มาชม “พระธาตุกลับหัว” (หมายเหตุ : การขึ้นชมพระธาตุกลับหัวสามารถชมได้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น)
รับประทานอาหารเย็น ส่งท่านกลับโรงแรม หรือที่พัก (หรือส่งสนามบิน แล้วแต่ลูกค้า)
ราคาท่านละ 3,000 บาท ( 4 ท่าน ขึ้นไป )
3 ท่าน ราคาท่านละ 4,000 บาท
2 ท่าน ราคาท่านละ 6,000 บาท
หมายเหตุ: ราคานี้ เราทำแบบ Private Tour เฉพาะในกลุ่มของท่าน (ไม่ต้องไปรวมกับท่านอื่น)
ราคานี้รวม:
1. รถตู้รุ่นใหม่ D4D (ถ้าจำนวนคนน้อย อาจใช้รถยนต์แบบ 7 ที่นั่ง หรือรถยนต์แบบ 5 ที่นั่ง)
2. คนขับรถที่มีประสบการณ์ และชำนาญเส้นทาง
3. น้ำมันรถตลอดเส้นทาง
4. โรงแรม ระดับ 3 ดาว (หรือเทียบเท่า) เชียงใหม่ 1 คืน
5. อาหารเช้า 2 มื้อ และ อาหารกลางวัน 2 มื้อ
6. ประกันอุบัติเหตุ สำหรับลูกค้าทุกท่าน (สูงสุด 1,000,000 บาท)
ราคานี้ไม่รวม:
1. อาหารเย็นทั้ง 2 มื้อ
2. ค่าธรรมเนียม, ตั๋ว
3. ทัวร์นอกโปรแกรม (ทัวร์เสริมทั้งหมด)
4. บริการอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวในโปรแกรม
5. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เช่น ค่าเครื่องดื่ม, ค่าซัก รีด ฯลฯ
ถ้าอยากสอบถามเพิ่มเติม หรือ จองทัวร์ สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ หรือ อีเมลที่ให้ไว้ด้านล่างนี้ได้เลยนะครับ ขอขอบคุณที่ให้ความสนใจครับ
คุณตี๋ (เชียงใหม่ ที ทัวร์) โทรศัพท์ 0816039997
email: chiangmaiteetour@hotmail.com
ID Line: teetour
เชียงใหม่ ที ทัวร์ (ใบอนุญาตเลขที่ 23/02333)
สำนักงานตั้งอยู่ใน โรงแรม รอยัล เพนนินซูลา และ โรงแรม รอยัล พรรณราย จังหวัด เชียงใหม่
|
|
|
|
|